จาก CEO ของ YouTube: การเดิมพันครั้งใหญ่ของเราในปี 2025
วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
ปีนี้ YouTube จะมีอายุครบ 20 ปีแล้ว ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา YouTube ได้พลิกโฉมวัฒนธรรมผ่านวิดีโอและสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เฟื่องฟู ปัจจุบันครีเอเตอร์ได้เปลี่ยนจากการถ่ายทำวิดีโอที่มีภาพไม่ละเอียดในคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปมาเป็นการสร้างสตูดิโอและการผลิตรายการทอล์กโชว์ที่ได้รับความนิยม รวมไปถึงภาพยนตร์เรื่องยาว นอกจากนี้ ผู้คนก็ไม่ได้ดู YouTube แค่ในคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์อีกต่อไปแล้ว ทีวีได้รับความนิยมมากกว่าอุปกรณ์เคลื่อนที่ และในตอนนี้ก็กลายเป็นอุปกรณ์หลักสำหรับการดู YouTube ในสหรัฐอเมริกา (อิงตามเวลาในการรับชม)* โดยรายงานของ Nielsen ระบุว่า YouTube มีเวลาในการรับชมสตรีมมิงเป็นอันดับที่ 1 ในสหรัฐอเมริกานานถึง 2 ปี** และตอนนี้ก็ยังมี AI เข้ามาอีก ซึ่งแม้จะยังอยู่ในยุคแรกเริ่ม แต่ AI ก็ได้สร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับวิธีที่ผู้คนสร้างและรับชมคอนเทนต์ใน YouTube
ถือเป็นช่วงเวลา 20 ปีที่น่าตื่นเต้นจริงๆ และเช่นเคยเหมือนทุกๆ ปี ต่อไปนี้คือการเดิมพันครั้งใหญ่สำหรับ YouTube ในปี 2025
ข้อแรก: YouTube จะยังคงเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม
ภารกิจของเราที่มีมาอย่างยาวนานกว่าทศวรรษคือให้ทุกคนมีโอกาสแสดงแนวคิดและความเป็นตัวของตัวเองให้โลกรับรู้ ซึ่งหมายความว่าเราให้บริการแพลตฟอร์มที่มีเสรีภาพในการพูดและการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ไม่เหมือนกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ระบบนิเวศที่มีชีวิตชีวานี้ช่วยกระตุ้นให้เกิดกลุ่มแฟนคลับและเทรนด์ทางวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นมิวสิกวิดีโอ Shorts ที่กำลังเป็นที่นิยม คอนเทนต์แบบเป็นตอนๆ และ ไลฟ์สดที่มีความยาวเป็นชั่วโมง
เป็นที่แน่ชัดว่า YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่ชาวอเมริกันนิยมเข้ามารับชมคอนเทนต์เกี่ยวกับการเลือกตั้งในช่วงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาปี 2024 จากแหล่งต่างๆ มากมาย เช่น การสัมภาษณ์ประธานาธิบดี Trump ของ Joe Rogan ซึ่งมียอดดูถึง 55 ล้านครั้ง (และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) และคอนเทนต์ตลกขบขันสั้นๆ จากรายการ Saturday Night Live ในวันเลือกตั้งเพียงวันเดียว มีผู้ชมกว่า 45 ล้านคนในสหรัฐอเมริการับชมคอนเทนต์เกี่ยวกับการเลือกตั้งใน YouTube บางคนก็เรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า “การเลือกตั้งใน YouTube” ซึ่งทำให้คิดถึงเหตุการณ์ที่คล้ายกันในปี 2008 นั่นก็คือ “การอภิปรายใน YouTube” ตั้งแต่การเลือกตั้ง โอลิมปิก เทศกาล Coachella ซูเปอร์โบวล์ ไปจนถึงการแข่งขันคริกเกตชิงแชมป์โลก ต่างก็เป็นโมเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกที่นำเสนอผ่าน YouTube
พอดแคสต์ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบคอนเทนต์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดและขับเคลื่อนวัฒนธรรม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมบน YouTube ตอนนี้ YouTube เป็นบริการที่มีคนใช้ฟังพอดแคสต์บ่อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยเราได้ลงทุนกับการพัฒนาประสบการณ์การฟังพอดแคสต์มานานแล้ว และครีเอเตอร์ก็พบว่าวิดีโอทำให้คอนเทนต์รูปแบบนี้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น ในปีนี้ เราจะเปิดตัวเครื่องมือเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนครีเอเตอร์พอดแคสต์ เพิ่มการสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์ และทำให้ผู้ชมค้นพบพอดแคสต์ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ YouTube ยังเป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอีกด้วย เพราะคอนเทนต์นั้นไม่มีขอบเขต ในปี 2024 เวลาในการรับชมมากกว่า 95% ของครีเอเตอร์สาวชาวฝรั่งเศสอย่าง Sarah Lezito มาจากผู้ชมที่อยู่ในประเทศอื่นๆ และ The Amazing Digital Circus ที่เป็นซีรีส์แอนิเมชันของช่องจากออสเตรเลียอย่าง GLITCH ก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยปรากฏในรายชื่อคอนเทนต์ส่งท้ายปีของ YouTube ใน 8 ประเทศ
YouTube ไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มธรรมดา แต่ยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม โดยเรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมชุมชนที่มีชีวิตชีวาซึ่งทุกคนสามารถแสดงแนวคิดได้
ข้อที่ 2: ครีเอเตอร์ YouTube จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการก้าวสู่ฮอลลีวูด
ทุกอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตจำเป็นต้องมีวัฒนธรรมสตาร์ทอัพที่แข็งแรง ครีเอเตอร์จะเป็นผู้นำแนวคิดด้านสตาร์ทอัพสู่วงการฮอลลีวูด โดยอาศัยการผลิตรูปแบบใหม่ การสร้างสตูดิโอที่จะยกระดับคุณภาพการผลิต และการสำรวจช่องทางใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ ครีเอเตอร์กำลังสร้างพื้นที่ใหม่ๆ สำหรับวงการบันเทิงและธุรกิจที่อยู่เบื้องหลัง
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมได้เข้าร่วมงานเปิดสตูดิโอของ Alan Chikin Chow ที่มีขนาด 10,000 ตารางฟุตในเบอร์แบงก์ โดยสตูดิโอแห่งนี้เป็นพื้นที่สวยสะดุดตาสีสันสดใสที่เต็มไปด้วยความสนุก ทั้งยังมาพร้อมอุปกรณ์ทันสมัยที่ช่วยให้สามารถผลิตสื่อบันเทิงอันแสนยอดเยี่ยมที่มีผู้รับชมหลายล้านคนทั่วโลก ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในฮอลลีวูด Kinigra Deon ก็กำลังสร้างสตูดิโอในเบอร์มิงแฮม รัฐแอละแบมา นอกจากนี้ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ครีเอเตอร์ที่อยู่เบื้องหลังช่องต่างๆ อย่าง Mia Plays และ Kouman ก็ได้เปิดสตูดิโอของตัวเองในนอร์ทแวนคูเวอร์
เราก็มุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของเหล่าครีเอเตอร์ด้วยเครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจและชุมชนของพวกเขา เราจะยังคงเดินหน้าให้การสนับสนุนการเติบโตของพวกเขาต่อไปผ่านช่องทางรายได้แบบดั้งเดิมอย่างโฆษณาและ YouTube Premium พร้อมทั้งแนะนำวิธีใหม่ๆ สำหรับครีเอเตอร์ในการร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเกิดขึ้นได้จริง
เช่นเดียวกับกับสตาร์ทอัพทุกแห่ง ครีเอเตอร์มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการหาแนวทางใหม่ๆ ในการสร้างธุรกิจ และเราจะเพิ่มวิธีใหม่ๆ ในการสร้างรายได้ให้แก่ครีเอเตอร์ ในปีที่ผ่านมา ช่องมากกว่า 50% ที่สร้างรายได้อย่างน้อย 5 หลัก (USD)*** บน YouTube ได้รับรายได้จากแหล่งอื่นๆ นอกเหนือจากโฆษณาและ YouTube Premium นอกจากนี้ สินค้าแนะนำก็กำลังกลายเป็นแหล่งรายได้หลักสำหรับครีเอเตอร์จำนวนมาก เช่น Bora Claire ที่ได้แชร์กับเราว่าเธอสร้างรายได้หลายแสนดอลลาร์ด้วยการขายสินค้าในวิดีโอเดียวที่เธอรีวิวเสื้อคาร์ดิแกนผ้าแคชเมียร์ ในปีที่แล้ว เราพบว่ามีการเป็นสมาชิกของช่องเพิ่มขึ้นมากกว่า 40%****
เรายังเปิดตัวการโต้ตอบระดับใหม่ในแพลตฟอร์มอีกด้วย ซึ่งช่วยให้แฟนๆ มีวิธีมากขึ้นในการสนับสนุนและมีส่วนร่วมกับครีเอเตอร์และชุมชนที่ตัวเองรัก เราเพิ่งเปิดตัวชุมชน (Communities) สำหรับครีเอเตอร์อีกหลายพันคน และเราจะขยายการให้บริการมากยิ่งขึ้นในปีนี้ นอกจากนี้ เรายังจะเปิดตัวฟีเจอร์ไฮป์ (Hype) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้สนับสนุนครีเอเตอร์หน้าใหม่ ในตลาดอื่นๆ เพิ่มเติมทั่วโลกด้วย
ข้อที่ 3: YouTube เปรียบเสมือนทีวีแบบใหม่
ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าการดูทีวีคือการดู YouTube ผู้ชมดูคอนเทนต์ YouTube บนทีวีในแต่ละวันกว่า 1 พันล้านชั่วโมงโดยเฉลี่ย และตอนนี้ทีวีก็ได้กลายเป็นอุปกรณ์หลักในการดู YouTube ในสหรัฐอเมริกา***** แต่ทีวีรูปแบบ “ใหม่” นี้ไม่เหมือนทีวีแบบ “เก่า” โดยทีวีแบบใหม่จะเป็นแบบอินเทอร์แอกทีฟและมีคอนเทนต์ต่างๆ เช่น Shorts (ใช่ครับ ผู้คนดู Shorts บนทีวี) พอดแคสต์ และไลฟ์สด รวมไปถึงกีฬา ซิทคอม และทอล์กโชว์ที่ผู้คนชื่นชอบกันอยู่แล้ว
เนื่องจากครีเอเตอร์จำนวนมากขึ้นผลิตคอนเทนต์สำหรับหน้าจอขนาดใหญ่ เราจึงจะปรับปรุงให้ YouTube เหมาะกับทีวีมากที่สุด เช่น ประสบการณ์การรับชมบนหน้าจอที่ 2 ที่ให้คุณทำสิ่งต่างๆ เช่น แสดงความคิดเห็นหรือเลือกซื้อสินค้าจากวิดีโอผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ นอกจากนี้ เรายังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “Watch With” ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถแสดงความคิดเห็นแบบสด รวมถึงรีแอ็กต่อเกมและกิจกรรมต่างๆ แบบเรียลไทม์ เราเริ่มทดสอบฟีเจอร์นี้เมื่อปีที่แล้วกับ NFL และจะทดสอบกับกีฬาอื่นๆ และคอนเทนต์ประเภทต่างๆ ในปีนี้
นอกจากนี้ การเติบโตของ YouTube บนทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็กำลังดึงดูดผู้ลงโฆษณารายใหม่ๆ ด้วย และเรายังคงเดินหน้าเปิดตัวฟอร์แมตใหม่ๆ ที่เหมาะสำหรับหน้าจอขนาดใหญ่โดยเฉพาะ เช่น คิวอาร์โค้ดและโฆษณาช่วงวิดีโอหยุดเล่น บริการที่ต้องสมัครใช้งานของเราพบช่องทางในการสร้างกระแสมากมาย โดย YouTube TV มีสมาชิกมากกว่า 8 ล้านคน นอกจากนี้ YouTube Music และ Premium ก็มีสมาชิกมากกว่า 100 ล้านคน (รวมผู้ที่กำลังทดลองใช้) เราจะปรับปรุงฟีเจอร์ของ YouTube TV ที่แฟนๆ ชื่นชอบอย่างต่อเนื่อง เช่น จังหวะการเล่นที่สำคัญและการดูแบบหลายมุมมอง รวมถึงนำเสนอสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ ให้แก่สมาชิก YouTube Premium
ฟีเจอร์สุดล้ำ คอนเทนต์ที่หลากหลาย และบริการที่ต้องสมัครใช้งานซึ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ช่วยให้เรากำหนดรูปแบบประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ผ่านทีวีสำหรับคนรุ่นใหม่ได้
ข้อที่ 4: AI จะทำให้การสร้างและปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน YouTube ของทุกคนง่ายยิ่งขึ้น
AI เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานของเรามาเป็นเวลานาน ตั้งแต่การแนะนำวิดีโอ การสร้างคำบรรยายแทนเสียง ไปจนถึงการช่วยเราค้นหาและนำคอนเทนต์ที่เป็นอันตรายออก เราจะมุ่งสู่อนาคตด้วยการลงทุนกับเครื่องมือ AI ที่ส่งเสริมครีเอเตอร์และศิลปินตลอดเส้นทางการสร้างสรรค์ เมื่อปีที่แล้ว เราได้เปิดตัวดรีมสกรีนและดรีมแทร็ก ซึ่งสร้างภาพพื้นหลัง วิดีโอพื้นหลัง และซาวด์แทร็กเพลงบรรเลงสำหรับ Shorts เราจะลงทุนกับฟีเจอร์เหล่านี้ต่อไป รวมถึงผสานรวม Veo 2 กับดรีมสกรีนในเร็วๆ นี้
ครีเอเตอร์ไม่เพียงแค่ประทับใจโมเดล Generative AI แต่ยังบอกเราว่าตื่นเต้นสุดๆ เกี่ยวกับการที่ AI สามารถช่วยพวกเขาในขั้นตอนหลักของการผลิตด้วย ด้วยเหตุนี้ เราจึงลงทุนกับเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยในงานสร้างสรรค์ของครีเอเตอร์ในทุกๆ วัน เช่น คิดหาไอเดียใหม่ๆ สำหรับวิดีโอ ชื่อ หรือภาพปก
เรายังใช้ AI เพื่อช่วยครีเอเตอร์ค้นหาผู้ชมใหม่ๆ ด้วย สำหรับวิดีโอที่มีเสียงพากย์ พบว่าเวลาในการรับชมกว่า 40% มาจากผู้ชมที่เลือกฟังเสียงพากย์ในภาษาอื่น เมื่อปีที่แล้ว เราได้เปิดตัวการพากย์เสียงอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์แปลวิดีโอของพวกเขาให้เป็นภาษาต่างๆ ด้วยการแตะปุ่มเพียงปุ่มเดียว ในเร็วๆ นี้ เราจะเปิดให้ครีเอเตอร์ทุกคนในโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube ใช้การพากย์เสียงอัตโนมัติ เราจะดำเนินการปรับปรุงฟีเจอร์นี้ต่อไปและขยายการให้บริการในภาษาอื่นๆ ตลอดทั้งปี
นอกเหนือจากความพยายามด้าน AI ทั้งหมด เรายังมุ่งเน้นไปที่การสร้างข้อกำหนดการใช้งานที่เหมาะสมเพื่อปกป้องผลงานสร้างสรรค์บน YouTube ซึ่งหมายถึงการพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อช่วยให้แต่ละคนสามารถตรวจหาและควบคุมวิธีใช้งาน AI ในการนำเสนอคอนเทนต์ของตนเองบน YouTube การนำร่องกับพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์จะช่วยให้บุคคลที่มีอิทธิพลต่อโลกมากที่สุดบางส่วนมีสิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยีในระยะเริ่มต้นนี้ในไม่ช้า และจะมีการให้ความคิดเห็นที่สำคัญเพื่อช่วยเราสร้างระบบตรวจจับและปรับแต่งการควบคุม
นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการปกป้องผู้ใช้อายุน้อยด้วย ด้วยเหตุนี้เราจึงสร้าง YouTube Kids ขึ้นมาและเปิดตัวบัญชีที่มีการควบคุมดูแล รวมถึงลงทุนกับประสบการณ์การเรียนรู้และการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงวิธีที่วิดีโอแสดงในเครื่องมือทางการศึกษา การทำให้การดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ ในวิดีโอง่ายขึ้น ตลอดจนการเปิดตัวฟีเจอร์ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างหลักสูตรได้ ในปี 2025 นี้ เราจะใช้แมชชีนเลิร์นนิงมาช่วยประเมินอายุของผู้ใช้เพื่อจำแนกระหว่างผู้ชมอายุน้อยกับผู้ชมที่เป็นผู้ใหญ่ เพื่อช่วยมอบการปกป้องและประสบการณ์การใช้งานที่เหมาะสมกับวัยมากที่สุด
เราจะใช้ศักยภาพของ AI ต่อไปอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน YouTube สำหรับทุกคน
มุ่งหน้าสู่ 20 ปีถัดไป
เป็นเรื่องน่าทึ่งที่ YouTube ได้ช่วยให้ผู้คนสร้างสรรค์ผลงาน เรียนรู้ เชื่อมต่อถึงกัน และอีกมากมายเป็นเวลาถึง 2 ทศวรรษแล้ว ในขณะที่เดินหน้าเข้าสู่บทต่อไป เราก็มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมศักยภาพของครีเอเตอร์ สนับสนุนชุมชน รวมถึงปรับปรุงประสบการณ์การรับชม รับฟัง และการเชื่อมโยงกันของผู้คนทั่วโลกด้วย
ขอขอบคุณชุมชนครีเอเตอร์ ศิลปิน ผู้ชม ผู้ลงโฆษณา และพาร์ทเนอร์ที่แสนยอดเยี่ยมในการทำให้ YouTube เป็นอย่างเช่นทุกวันนี้ เราตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมสร้างสรรค์ไปกับคุณตลอดช่วง 20 ปีข้างหน้า
Neal Mohan
CEO ของ YouTube
*ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2024 จากบริการทั้งหมดของ YouTube
**The Gauge Report ของ Nielsen, ก.พ. 2023 - ม.ค. 2025
***ช่องที่อยู่ในโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube
****ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2024
*****อิงตามเวลาในการรับชมในทุกบริการของ YouTube ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2024